โรค ดื้อต่อต้าน ODD
โรคดื้อต่อต้านคืออะไร
อาการของโรคดื้อต่อต้าน
หลายครั้งการที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างเด็กที่มีความต้องการที่แน่ชัด เจ้าอารมณ์ และเด็กที่เป็นโรคดื้อและต่อต้านนั้นอาจเป็นเรื่องยาก เมื่อเด็กมีภาวะดื้อและต่อต้าน จะมีอาการที่เป็นสัญญาณเตือนที่ค่อยๆ เกิดขึ้น และอาจแสดงออกรุนแรงมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปเป็นเดือนหรือปี เด็กอาจเป็นโรคดื้อและต่อต้านหากมีอารมณ์ไม่ดีตลอดเวลาเป็นระยะเวลาต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือนจนนำไปสู่ปัญหาภายในครอบครัวหรือที่โรงเรียน ซึ่งเด็กที่เป็นโรคดื้อและต่อต้านจะมีอาการหลักๆ ดังนี้เป็นประจำ
- มีอารมณ์ฉุนเฉียวตลอดเวลา
- เถียงหรือชวนผู้ใหญ่ทะเลาะ
- ตั้งใจทำให้คนอื่นรำคาญ
- ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งและกฎเกณฑ์
- โทษคนอื่นเมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือเป็นต้นเหตุของพฤติกรรมไม่ดีของตน
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคดื้อต่อต้าน
- ปัจจัยจากตัวเด็ก คือ การมีพื้นอารมณ์เป็นเด็กที่เลี้ยงยาก สมองส่วนหน้าที่มีหน้าที่ควบคุมอารมณ์และยับยั้งพฤติกรรมของตนเอง รวมทั้งระบบสารสื่อประสาทและฮอร์โมนมีความผิดปกติ รวมไปถึงความผิดปกติในระหว่างเป็นทารกในครรภ์มารดา และภาวะทุโภชนาการและการได้รับสารพิษบางอย่างก็ส่งผลให้เกิดโรคนี้ได้
- ปัจจัยจากพ่อแม่และครอบครัว อาจเกิดจากการที่พ่อแม่ไม่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสมในวัยเด็ก จึงทำให้ขาดทักษะในการเลี้ยงดูลูกที่ถูกต้อง นอกจากนี้ความเครียดจากการเลี้ยงดูลูก การทำงานและความสัมพันธ์ในครอบครัวก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกเกิดโรคนี้ได้ อีกทั้งหากสมาชิกในครอบครัวที่ป่วยด้วยโรคทางจิต ไม่ว่าจะเป็น โรคความผิดปกติทางอารมณ์ โรควิตกกังวล และความผิดปกติทางบุคลิกภาพ เด็กจะเกิดโอกาสเป็นโรคดื้อต่อต้านได้สูง
- ปัจจัยจากการเลี้ยงดูและการฝึกวินัย เด็กที่มีพฤติกรรมดื้อ ต่อต้านแล้วก้าวร้าวมักได้รับการเลี้ยงดูในลักษณะที่ทำให้เด็กขาดความผูกพันทางอารมณ์ที่มั่นคงต่อพ่อแม่ คือเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลยหรือใช้ความรุนแรงกับเด็ก ตามใจลูกมากเกินไป หรือการเลี้ยงดูแบบไม่สม่ำเสมอคือบางครั้งก้เข้มงวด บางครั้งก็ตามใจ
แนวทางการแก้ไขโรคดื้อต่อต้าน
- การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเด็ก พื้นฐานที่สำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องนี้คือความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่ พ่อแม่ต้องทำความเข้าใจในตัวลูกใหม่ ทำความเข้าใจว่าพฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องใช้เวลาและความรักแก่ลูก
- การปรับพฤติกรรม ใช้วิธีการเสริมแรงทางบวกเมื่อเด็กทำพฤติกรรมที่ดี คือชื่นชมพฤติกรรมที่ดีของลูก ด้วยการชมให้เฉพาะเจาะจงมากที่สุด เช่น “แม่ชอบที่ลูกเก็บของเล่นเองมาก” รวมไปถึงการปรับพฤติกรรมของพ่อแม่ด้วยการทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีในสิ่งที่ต้องการให้ลูกทำตาม หลีกเลี่ยงการใช้อำนาจกับลูกมากเกินไป ไม่ควรทำโทษที่รุนแรงเกินควร เพราะจะทำให้เด็กดื้อต่อต้านและก้าวร้าวมากขึ้น
- การเลี้ยงดูและการฝึกวินัย พ่อแม่ควรฝึกวินัยให้ลูกอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่อายุประมาณ 1 ขวบขึ้นไป โดยเฉพาะเรื่องการกินและการนอนให้เป็นเวลาเพื่อให้เด็กชิน ควรกำหนดกฎระเบียบต่างๆ ในครอบครัวที่มีเหตุผลและชัดเจน ถ้าปฏิบัติตามจะได้ผลตอบแทนอย่างไร ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะมีผลตามมาอย่างไร พ่อแม่ควรติดตามให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ตั้งขึ้นอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ และไม่เลี้ยงดูอย่างตามใจเด็ก
หากทำตาม 3 ข้อแรกประมาณ 1-2 เดือนแล้วแต่ลูกยังไม่ดีขึ้น แสดงว่าเด็กหรือพ่อแม่อาจมีปัญหาทางจิตเวชที่ต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติม เช่น เด็กเป็นโรคสมาธิสั้น หรือพ่อแม่เป็นโรควิตกกังวลหรือซึมเศร้า ก็ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
ขอบคุณข้อมูลจาก
" เห็นผลจริง พิสูจน์แล้ว โดยผู้ใช้จริง "
หายห่วงเรื่องผลข้างเคียง
กดที่ภาพเพื่อดูผลลัพท์ผู้ใช้เพิ่มเติม
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ศูนย์ เคล็ดลับ เรียนเก่ง ฟื้นฟูสมอง
"พร้อมให้คำปรึกษา ตลอดโครงการ"
ปรึกษาปัญหา
โทร. 087-048-4741
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น